เพราะเธอ

ก่อนเคยคิดไม่รักไม่อยากคบ     ยิ่งได้พบหน้าเธอเมินหน้าหนี



แต่เธอก็อดทนรอเป็นปี              รอคนที่ไม่สนใจใยดีเธอ



จนวันนึงฉันเจอความทุกข์เศร้า  เธอก็เข้ามาปลอบตอบปัญหา



ทั้งอดทนรักแค่ฉันตลอดเวลา     พอไม่ช้าต้องแพ้ใจให้กับเธอ



แล้ววันนี้ก็บอกเธอเลยว่ารัก       ไม่อยากพักหัวใจเลยสักหน



ขอหยุดใจเอาไว้แค่เราสองคน   วันนี้จนชั่วนิรันดร์ไม่เปลี่ยนแปลง

คอยเจ้ามา

แค่เธอบอก ชอบชอบฉัน ไม่ผันแปร
จะรักแน่ แค่เพียงฉัน ฝันใฝ่หา
ทุกทุกคืน ยืนยืนสุข ชมจันทรา
คอยเจ้ามา แลกอุ่นไอ ใจรักจริง


ขอขอบคุณ กลอนรัก โดยคุณ สำรวย ชูคง

กลอนวันภาษาไทยแห่งชาติ

พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
ทรงเปรื่องปราดสร้างสารจารอักษร
หลักศิลาจารึกบันทึกกลอน
ถ้อยสุนทรลำนำคำประพันธ์


พ่อกูชื่อขุนศรีอินทราทิตย์
ท่านลิขิตล้วนคือสื่อสร้างสรรค์
ทุกบทตอนย้อนเล่ากล่าวจำนรรจ์
แต่ปางบรรพ์สุโขทัยใช้สืบมา


ภาษาไทยเรานี้มีค่าล้ำ
ควรค่านำใฝ่ฝึกใจศึกษา
เป็นรากฐานทุกศิลป์ศาสตร์ปราชญ์ตำรา
ใช้ภาษาไทยสื่อสารผ่านครรลอง


วันนี้เป็นวันสำคัญอันมีค่า
วันภาษาไทยแห่งชาติประกาศก้อง
เราภูมิใจไทยนี้มิเป็นรอง
ถิ่นเมืองทองแน้นแฟ้นแผ่นดินไทย


ขอวอนเพื่อนเตือนใจให้รักชาติ
อักษรศาสตร์วาดสรรค์วรรณสมัย
ช่วยกันใช้ให้ถูกลูกหลานไทย
ไม่เขียนผิดเพี้ยนไปให้เสียการ


ภาษาไทยใช้สื่อสารนานไม่น้อย
นับเจ็ดร้อยกว่าปีที่สืบสาน
พ่อขุนรามคำแหงแจ้งจดจาร
ควรแก่การดำรงไว้ให้มั่นคง


ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ชาติ
อย่าให้ขาดตามพระราชประสงค์
แสดงวัฒนธรรมไทยใช้เจาะจง
เป็นสิ่งบ่งเอกราชของชาติไทย


ขอขอบคุณ กลอนวันภาษาไทยแห่งชาติ จาก : http://www.thaipoem.com/poem/117520
โดยคุณ ครูกระดาษทราย

กลอนวันภาษาไทยแห่งชาติ

ภาษาไทยงดงามด้วยน้ำเสียง
ถ้อยเรียบเรียงหวานหูไม่รู้หาย
สื่อความคิดสื่อความรู้สื่อแทนกาย
สื่อความหมายด้วยภาษาน่าชื่นชม


เกิดเป็นไทยภาษาไทยเขียนให้คล่อง
กฎเกณฑ์ต้องรู้ใช้ให้เหมาะสม
จะพูดจาน่าฟังทั้งนิยม
เจ้าคารมเขาจะหมิ่นจนสิ้นอาย


ภาษาพูดสนทนาพูดจาทัก
เป็นสื่อรักสื่อสัมพันธ์ความมั่นหมาย
แม้นพูดดีมีคนรักมักสบาย
แต่พูดร้ายส่อเสียดคนเกลียดกัน


วัฒนธรรมล้ำค่าภาษาสวย
ทุกคนช่วยออกเสียง “ร” ขอสร้างสรรค์
แม้นออกเสียง เป็น “ล” เขาล้อกัน
คนจะหยันชาติเราไม่เข้าที


สระ “เอือ เป็น “เอีย” ฟังเพลียนัก
บอกที่รัก ช่วยซื้อ “เกีย”..ที่ร้านนี่
ขอ “ซมเซย” จะเชยแท้ แม้พาที
วอนน้องพี่ต้องช่วยกันจรรโลงไทย


ผมได้เลิกแต่งงานในวันนี้
เป็นเลิกดีเลิกงามยามสดใส
ออกเสียงฤกษ์ เป็นเลิก ครั้งคราใด
คงทำให้สื่อสารผิด..คิดเสียดาย


ภาษาไทยงดงามด้วยความคิด
แม้นอ่านผิดก็เขียนผิด..คงเสียหาย
เขียนอ่านไทยให้ถูกด้วยช่วยผ่อนคลาย
สื่อทั้งหลาย..ต้องช่วยกัน..นั้นอีกแรง..


ขอขอบคุณ กลอนวันภาษาไทยแห่งชาติ จาก : http://www.thaipoem.com/poem/117520
โดยคุณ ครูพิม

วันเข้าพรรษา 2556

อีกไม่นาน ก็จะถึงวันสำคัญทางพุทธศาสนานั่นก็คือ “วันเข้าพรรษา” ซึ่ง เป็นวันที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น หรือที่เรียกติดปากกันโดยทั่วไปว่า “จำพรรษา” นั่นเอง


ประวัติวันเข้าพรรษา


 6


          ”เข้าพรรษา” แปลว่า “พักฝน” หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดย เหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่น ๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน คือ เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี เรียกว่า ”ปุริมพรรษา”


ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือนแปดหลัง และออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เรียกว่า ”ปัจฉิมพรรษา” เว้นแต่มีกิจธุระคือเมื่อเดินทางไปแล้วไม่สามารถจะ กลับได้ในเดียวนั้น ก็ทรงอนุญาตให้ไปแรมคืนได้ คราวหนึ่งไม่เกิน 7 คืน เรียกว่า ”สัตตาหะ” หากเกินกำหนดนี้ถือว่าไม่ได้รับประโยชน์แห่งการจำพรรษา จัดว่าพรรษาขาด

สำหรับข้อยกเว้นให้ภิกษุจำพรรษาที่อื่นได้ โดยไม่ถือเป็นการขาดพรรษา เว้นแต่เกิน 7 วัน ได้แก่

1.การไปรักษาพยาบาลภิกษุ หรือบิดามารดาที่เจ็บป่วย
2.การไประงับภิกษุสามเณรที่อยากจะสึกมิให้สึกได้
3.การไปเพื่อกิจธุระของคณะสงฆ์ เช่น การไปหาอุปกรณ์มาซ่อมกุฏิที่ชำรุด
4.หากทายกนิมนต์ไปทำบุญ ก็ไปฉลองศรัทธาในการบำเพ็ญกุศลของเขาได้

นอกจากนี้หากระหว่างเดินทางตรงกับวันหยุดเข้าพรรษาพอดี พระภิกษุสงฆ์เข้ามาทันในหมู่บ้านหรือในเมืองก็พอจะหาที่พักพิงได้ตามสมควร แต่ถ้ามาไม่ทันก็ต้องพึ่งโคนไม้ใหญ่เป็นที่พักแรม ชาวบ้านเห็นพระได้รับความลำบากเช่นนี้ จึงช่วยกันปลูกเพิง เพื่อให้ท่านได้อาศัยพักฝน รวมกันหลาย ๆ องค์ ที่พักดังกล่าวนี้เรียกว่า “วิหาร” แปลว่า ที่อยู่สงฆ์ เมื่อหมดแล้ว พระสงฆ์ท่านออกจาริกตามกิจของท่านครั้ง ถึงหน้าฝนใหม่ท่านก็กลับมาพักอีก เพราะสะดวกดี แต่บางท่านอยู่ประจำเลย บางทีเศรษฐีมีจิตศัรทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ก็เลือกหาสถานที่สงบเงียบไม่ห่างไกลจากชุมชนนัก สร้างที่พัก เรียกว่า “อาราม” ให้เป็นที่อยู่ของสงฆ์ดังเช่นปัจจุบันนี้

ทั้งนี้ โดยปกติเครื่องใช้สอยของพระตามพุทธานุญาตให้มีประจำตัวนั้น มีเพียงอัฏฐบริขาร อันได้แก่ สบง จีวร สังฆาฏิ เข็ม บาตร รัดประคด หม้อกรองน้ำ และมีดโกน และกว่าพระท่านจะหาที่พักแรมได้ บางทีก็ถูกฝนต้นฤดูเปียกปอนมา ชาวบ้านที่ใจบุญจึงถวายผ้าอาบน้ำฝนสำหรับให้ท่านได้ผลัดเปลี่ยน และถวายของจำเป็นแก่กิจประจำวันของท่านเป็นพิเศษในเข้าพรรษา นับเป็นเหตุให้มีประเพณีทำบุญเนื่องในวันนี้สืบมา…

อย่างไรก็ตาม แม้การเข้าพรรษาจะเป็นเรื่องของพระภิกษุ แต่พุทธศาสนิกชนก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำบุญรักษาศีล และชำระจิตใจให้ผ่องใส ก่อนวันเข้าพรรษาชาวบ้านก็จะไปช่วยพระทำความสะอาดเสนาสนะ ซ่อมแซมกุฏิวิหารและอื่น ๆ พอถึงวันเข้าพรรษาก็จะไปร่วมทำบุญตักบาตร ถวายเครื่องสักการะบูชา ดอกไม้ ธูปเทียน และเครื่องใช้ เช่น สบู่ ยาสีฟัน เป็นต้น พร้อมฟังเทศน์ ฟังธรรม และรักษาอุโบสถศีลกันที่วัด บางคน อาจตั้งใจงดเว้นอบายมุขต่าง ๆ เป็นกรณีพิเศษ เช่น งดเสพสุรา งดฆ่าสัตว์ เป็นต้น อนึ่ง บิดามารดามักจะจัดพิธีอุปสมบทให้บุตรหลานของตน โดยถือกันว่าการเข้าบวชเรียนและอยู่จำพรรษาในระหว่างนี้จะได้รับอานิสงส์ อย่างสูง

มีสติ

หางเอ๋ยหางเสือ


มีประจำท้ายเรือถือให้เที่ยง


ขาดหางเสืออาจทำลำเรือเอียง


ดูเป็นเยี่ยงอย่างเทียบเปรียบใจคน


     หากสติมิได้ใจจะเขว


พาชีวิตร่อนเร่ระเหระหน


มีสติช่วยได้ไม่อับจน


จะพาพ้นภัยพิบัติสวัสดิ์เอย


ขอขอบคุณ กลอนให้กำลังใจ โดยคุณ พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ

สันติภาพ ศรัทธา ความรัก และความหวัง

เปลวเทียนทั้ง 4 เล่ม ค่อยๆ พลิ้วไหวไปอย่างช้าๆ
บรรยากาศรอบข้าง ช่างแผ่วเบายิ่งนัก
หากเราเงี่ยหูฟัง จะได้ยินเทียนทั้งสี่สนทนากัน...


เทียนเล่มแรกเอ่ย "ฉันคือ สันติภาพ น่าเศร้าเหลือเกิน
ทุกวันนี้ ไม่มีใครอยากให้ฉัน สว่างไสว"
แสงของ "สันติภาพ" ค่อยๆ ริบหรี่ และ ดับไป


เทียนเล่มที่สอง เอ่ย "ฉันคือ ศรัทธา น่าเศร้าหนักหนา
ทุกวันนี้ ไม่มีใครต้องการ"
แสงของ "ศรัทธา" ค่อยๆ ริบหรี่ และ ดับไป


เสียงเอ่ยขึ้นมาอย่างเศร้าใจ เทียนเล่มที่สาม กล่าว "ฉันคือ ความรัก
ฉันไม่เข้มแข็งพอ ที่จะส่องสว่างต่อไป"
"ผู้คนเพิกเฉยและไม่เห็นค่าของฉัน
แม้แต่คนใกล้ชิด พวกเขายังไม่คิดจะเติมรักให้แก่กัน"
ว่าดังนั้น พลัน "ความรัก" ก็ดับไป


ไม่ช้าไม่นาน...เด็กน้อยคนหนึ่งได้เดินเข้ามา
เมื่อพบเทียนสามเล่มดับไป เขาเริ่มร่ำไห้และหลั่งน้ำตา
"ทำไมพวกเธอถึงดับไป พวกเธอต้องสว่างไสวตราบนิรันดร์ไม่ใช่หรือ"


ทันใด เทียนเล่มที่สี่ กระซิบอย่างแผ่วเบา
"อย่ากลัวไปเลยหนูน้อย ตัวฉันนี้คือ ความหวัง ตราบใดที่ฉันยังส่องสว่างอยู่ได้
เทียนสามเล่มนั้น จะกลับมาไม่ช้านาน"


เด็กชายตัวน้อย ตาเป็นประกายด้วยความปิติ
สองมือนั้นค่อยๆ จุด "เทียนแห่งความหวัง" พร้อมกันกับเทียนอีกสามเล่ม


อย่าปล่อยให้ "แสงแห่งความหวัง" ในชีวิตเราดับไป
ไม่ว่าสิ่งต่างๆ จะเลวร้ายหรือแย่สักแค่ไหน
เมื่อเรามี ความหวัง แล้วไซร้......
สันติภาพ ศรัทธา และ ความรัก ก็จะส่องสว่างอยู่ในตัวเราเสมอ.


ขอขอบคุณ กลอนให้กำลังใจ โดยคุณ เทียนสี่เล่ม, ไม่ปรากฎชื่อผู้แต่ง

แรงบันดาลใจ

แรงบันดาลใจมันคือสิ่งใดหนอ
รอแล้วรอไม่เห็นพบอยู่หนไหน
สอดสายตาทอดยาวไปแสนไกล
มีแต่ใบไม้ไหวกลางสายลม

หัวว่างเปล่าเคาะดังเสียงก๊องแก๊ง
ถ้อยอักษรแลทื่อแข็งน่าขื่นขม
อยากแต่งกลอนอันไพเราะให้ดูชม
นิ้วม้วนผมเคาะดินสอตาเหม่อคอย

กระดาษว่างมีแต่จุดคาร์บอนแท่ง
เป็นแห่งแห่งประกายคิดดูเสื่อมถอย
หัวด้านศิลป์จากรอยหยักเริ่มไร้รอย
ถอนใจเฮือกเฮือกเฮือกพลอยเหนื่อยใจจัง

นี่นี่คุณ! โปรดช่วยจุดประกายฝัน
ปลดหัวใจให้หลุดพลันจากคุกขัง
ให้ความคิดไหลลื่นดังเขื่อนพัง
เพื่อรังสรรค์งานสร้างสรรค์ให้ชื่นใจ


ขอขอบคุณ กลอนให้กำลังใจ จาก : http://thaipoem.com/forever/ipage/poem146652.html
โดยคุณ ศิวสิโรมณิ

... คิดถึงนะรอยยิ้ม ...

๏  สวัสดี...รอยยิ้มที่คิดถึง  
ที่เป็นหนึ่งพิมพ์ใจอยู่ไม่หาย
เสมือนรอยลงรัก...ฉลักลาย  
ทรงความหมายงดงาม...เมื่อยามมอง

๏  ณ รอยยิ้ม...สบายดีไหม...  
ฝากถามไปถึงคนเป็นเจ้าของ  
จากวันนั้นผ่านวันตามครรลอง   
พาเราสองพบพานแล้วผ่านไกล

๏  แต่โปรดรู้...มีหนึ่งคิดถึงนัก  
กี่ร้อยสักอักษรออกปราศรัย
คงมิเทียบเสียงระรัวของหัวใจ  
เฝ้ารอใครส่งยิ้มมาอีกครั้ง   

๏  รู้ไหมในระหว่างที่ห่างหาย  
ความเดียวดายเหมือนเงา..เฝ้าคอยสั่ง
อย่าเลยนะ...อย่าให้เพ้อเพียงลำพัง 
อย่าให้ตั้งตาเก้อชะเง้อคอย

๏  แอบยิ้มอยู่ไกลไกล..ใช่หรือเปล่า 
หรือแอบเฝ้าเหมือนเคย...ไม่เอ่ยถ้อย
บางครั้งสัมผัสรู้ถึงร่องรอย    
ก็ยิ่งพลอยกระวนกระวายใจ

๏  แม้ท้องฟ้าวันนี้...ที่ปรากฏ  
จะสวยสดด้วยยาม...สีครามใส  
แต่หากมีเมฆขาว-รอยยิ้มใคร  
ยิ่งพลอยให้โลกนี้...ชื่นชีวา

๏  ผ่านรอบคืนเพ็ญงาม...เฝ้าถามไถ่ 
ฝากความไปถึงเขาจันทร์เจ้าขา
หนึ่งคงรออีกคน...ร่วมสนทนา
ก่อนนิทราลากัน..."จงฝันดี"

๏  แม้คืนนี้จันทร์ฟ้าที่ปรากฏ  
รอบทรงกรดเรืองแซมเติมแต้มสี
คงเป็นสรวงตื่นตาแห่งราตรี      
ถ้าเพียงมีเธอเย้า...ร่วมเงาจันทร์

๏  ปฐมบทความดี...ที่มีให้  
คงตรึงใจเสมอกาลที่ผ่านผัน
จึงห่วงหาคำนึงอยู่ถึงกัน  
เพียงเธอนั้น..นะคนดี...ทุกที่ไป

๏  คิดถึงนะรอยยิ้ม...   
ร่างรอยพิมพ์บรรจงมาส่งให้
พร้อมบทเพลงมอบเคียงเพียงหนึ่งใคร 
ฉันดีใจที่มีเธอ...เสมอมา...


ขอขอบคุณ กลอนให้กำลังใจ จาก : http://thaipoem.com/forever/ipage/poem146649.html
โดยคุณ เพรง.พเยีย

ถึงวัน...ก็จะกลับ

ดั่งนกน้อยจากรังยังอ่อนหัด
โผบินลัดท้องทุ่งมุ่งตามฝัน
ท่องเที่ยวไปในป่าพนาวัน
ด้วยมุ่งมั่นเสาะหาประสบการณ์

เที่ยวโผนผกหกเหินห่างจากถิ่น
เพียงโบยบินลัดเลาะอย่างอาจหาญ
อุปสรรคน้อยใหญ่ที่พบพาน
ก็เผาผลาญด้วยจิตที่มั่นคง

ดุจนกน้อยจากรังเพียงครั้งหนึ่ง
ครวญรำพึงถึงถิ่นมิลืมหลง
ยังคิดถึงที่เก่าทั้งเผ่าพงศ์
สักวันคงโบยบินสู่ถิ่นเอย


ขอขอบคุณ กลอนให้กำลังใจ จาก : http://thaipoem.com/forever/ipage/poem146648.html
โดยคุณ อรุโณทัย

ส่งใจไปชายแดน

แอบส่งความห่วงใยไปที่หนึ่ง
ส่งไปถึงผู้คนไม่รู้จัก
ณ มุมนี้มีหนึ่งคนหม่นใจนัก
รุนแรงหนักไม่สงบอบอุ่นใจ

อยู่ทางนี้มีแต่รับข่าวสาร
สิ่งที่อ่านที่เห็นเท็จจริงไหม
เมื่อรับรู้เหตุการณ์ความเป็นไป
ทำได้เพียงทำใจและไตร่ตรอง

แต่ละวันปั่นป่วนล้วนสลด
ช่างรันทดหมดกันพลันเศร้าหมอง
อยากให้หยุดให้จบทบทวนมอง
นั่นพวกพ้องมิใช่หรือที่สิ้นใจ

มิอาจหรอกบอกกล่าวใครเศร้ากว่า
หยดน้ำตาฉันเธอล้วนเอ่อไหล
เธอฆ่าฉันฉันฆ่าเธอเสมอไป
คนข้างหลังขาดใจไปตามกัน


ขอขอบคุณ กลอนให้กำลังใจ จาก : http://thaipoem.com/forever/ipage/poem146646.html
โดยคุณ คุณหมอกระป๋อง

แด่รักอาลัยทาหารใต้

เมื่อชีวิตหลายร้อยคนบนเส้นด้าย


สิ้นชีพตายด้วยน้ำมือโจรสังหาร


เสียด้วยสงบประสพหนักเพราะหมู่มาร


ความกล้าหาญไม่หมดสิ้นเพราะคนไทย



ด้วยใจรักและคิดถึงทหารใต้


ถึงจะใกล้หรือจะไกลก็ไม่พลาด


ทั่วไทยแดนอิสานเหนือและภาคกลาง


เพราะดวงใจมิคลาดแคล้วให้ทหารไทย

สัจจะชีวิต

ชีวิตนี้  มีไว้  ให้เพื่อชาติ


ชีพไม่อาจ  ยืนอยู่  คู่กังฉิน


สัจจะธรรม  เร่งเร้า  เอาความจริง


ชีวิตจริง  ต้องสู้  กู้เมืองไทย


     ทิ้งอะไร  ก็ทิ้งได้  ไม่อายเขา


ทิ้งใจเรา  ไม่สู้  อดสูสิ้น


ทิ้งความคิด  อุดมการณ์  ทิ้งความจริง


ทิ้งทั้งสิ้น  ทิ้งขาด  ทิ้งชาติ...เอย...


ธุลีใจ...

ธรรมะ

ชีวิตคนเรา ยิ่งเรียบง่ายยิ่งมีความสุข
เพราะความสุขนั้น เป็นพี่น้องกับความเรียบง่า
จงอยู่อย่างคนธรรมดา แต่ใช้ปัญญาอย่างนักปราชญ์
ใช้ชีวิตอย่างธรรมดาให้มากที่สุด หากเรารู้จักยอม 
รู้จักหยุด รู้จักเย็น ชีวิตจะราบรื่นขึ้นมาก


ขอขอบคุณ กลอนให้กำลังใจ โดยคุณ Kittiyakorn Chongyuklang

โชคดีที่ได้เรียน

เราโชคดีมีโอกาสได้มาเรียน


ได้อ่านเขียนทุกวันเพื่อฝึกฝน


เราโชคดีกว่าครอบครัวที่ยากจน


เพราะบางคนได้แค่ฝันอยากจะเรียน


ขอขอบคุณ กลอนให้กำลังใจ โดยคุณ ครู รพี จงรักสัตย์วิทยา

เพลงรักๆ

นั่งฟังเพลงบางเพลงที่แสนเศร้า



ไม่ค่อยเข้าใจในความหมาย



มีแต่รักลวงหลอกเหมือนจะตาย



เฝ้าฟูมฟายในรักที่พบเจอ





ไม่ซาบซึ้งถึงความหมายในเพลงรัก



ไม่ชอบนักมีแต่รักมักเพ้อฝัน



ไม่มีความเป็นจริงเลยสักวัน



เห็นคนชอบฟังกันเพลงเดียวดาย





แต่มาวันที่ได้พบประสบรัก



ไม่อาจหักห้ามใจเมื่อขาดหาย



ทุกๆเพลง ทุกๆคำช้ำใจกาย



มีความหมายทุกวลีที่ได้ฟัง

แค่นี้ก็คงพอ

พราะเป็นความรู้สึก ภายใต้ใจ ที่ไขอยู่
เปิดก็รู้ ว่าเป็นคู่ วางเรียง ให้เคียงถาม
อยากให้เดินตรงนี้ ใกล้ชิด ว่าติดตาม
ทุกโมงยาม เช่นที่คิดไป คงจะดี


เท่าที่มี ก็ทำได้ แค่ในฝัน
คิดไกลนั้น ว่าชิดใกล้ อย่างไรหนอ
คิดทั้งหมด จิตนาการ ให้เพียงพอ
ให้ไม่ท้อ มีแรงต่อ สู้ชีวิต ที่ไม่มีเธอ


 

ขอขอบคุณ กลอนรัก โดยคุณ ภาษามีนญา

กลอนรัก

ฝากแมลงคอยดูแลถึงเคียงคู่
ฝากแมลงภู่ดูแลไม่ห่างหาย
ฝากแมลงป่องเคียงข้างไม่ห่างกาย
ฝากคำบรรยายสั้น สั้น "ชั้นรักเทอ"


ขอขอบคุณ กลอนรัก โดยคุณ mampawan

ลมเอย

ลมเอย
ไฉนหยุดพร่างพรมลมเจ้าเอ๋ย
ไฉนเลยลืมคำที่พร่ำขาน
ไฉนเร้นหนีไกลไปเนิ่นนาน
ไม่พัดผ่านไม้ใบให้ไหวตัว
กิ่งก้านใบไม้คอยลมมาพรมพร่าง
คอยกรีดร่างรำร่ายใต้ฟ้าหลัว
ฉันคอยลมโลมไล้คลายหม่นมัว
ใจนึกกลัวเกรงลมลับแล้วกลับกลาย
อยากให้ลมโลมลูบจูบเรือนร่าง
อยากให้ลมพรมพร่างไม่ห่างหาย
ให้ความเหงาความร้อนได้ผ่อนคลาย
อยากให้ลมเป็นเพื่อนกายรู้ใจกัน


ลมเจ้าเอย

ลมเจ้าเอย
เจ้าหลบหน้าหนีไปแห่งใดหนอ
ทิ้งท้องทุ่งทิวไม้ให้เฝ้ารอ
ทิ้งอ้อกอกิ่งไผ่ไม่มาชม
เคยพริ้วพัดผ่านไม้กิ่งใบโยก
ระบัดโบกบางเบาเข้าผสม
เคยพรมผ่านผิวกายคลายอารมย์
ยังเชิญชมแมกไม้ร่ายระบำ
เจ้าหลบเร้นหลีกไกลอยู่ไหนเล่า
ปล่อยฉันเฝ้าคอยหายระส่ายระสำ
ทิ้งอ้อกอกิ่งไผ่ช่างใจดำ|
ขอฝากคำถึงเจ้าข้าเว้าวอน

ใจเจ้าชู้

หอมดอกแก้ว แต่ใจฉัน ชอบลั่นทม


อยากเชยชม กรรณิการ์ เวลาหนาว


ค่ำคืนนี้ มีเพียงฉัน ใต้แสงดาว


หลงรักเจ้า ดอกลำดวน ชวนเด็ดดม


ขอขอบคุณ กลอนรัก โดยคุณ สำรวย ชูคง

อินติเกรดใจ

ฟ้าสลับ  ปรับแสง  แปลงหมอกเมฆ


เทวดาเสก  พายุฟน  ปนลมหนาว



น้ำค้างฟ้า  จันทร์คงเปียก  ร้องเรียกดาว



แต่ตัวเรา  คงโดดเดี่ยว  เปล่าเปลี่ยวใจ



     รอเหมันต์  ทิ้งวสันต์  ปันคิมหันต์



เร่งสุริยันต์  เปลี่ยนวัน  ผัน พ.ศ.



เหตุไฉน  ตัวเรา  ต้องคอยรอ



เพียงร้องขอ  คนพิเศษ  อินติเกรด..ใจ...

รักแรกพบ

ความรู้สึกแบบนี้..ฉันไม่สามารถอธิบายได้


เพราะเหตุใดใจของฉันมีแต่เธอคนนี้


รู้สึกว่ารักและผูกพันทุกวินาที


และจะมีเธอในใจเสมอฉันสัญญา


อาจเป็นเพราะพรหมลิขิตหรือฟ้ากลั่นแกล้ง


มิแอบแฝงให้แคลงใจไร้เหตุผล


รักคือรัก จะรักเธอ อย่างมั่นคง


มิได้หลงลืมคืนวันว่าฉันรักเธอ


จะมีแต่เธอเท่านั้นที่ฉันรัก


ให้ประจักษ์ว่ารักเธอทุกแห่งหน


ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลกันฉันจำนน


ความรู้สึกเอ่อล้นไม่ว่าอย่างไรฉันยังรักเธอ


จะรักและคิดถึงเสมอแม้ยามห่าง


จะไม่ให้เธอต้องอ้างว้างเพราะคงมีฉันเสมอ


ฉันขออยู่เคียงข้างตลอดไปนะเธอ


แม้จะเพ้อเจ้อฉันก็อยากบอกว่ารักเธอจากใจ


 

 

ขอขอบคุณ กลอนรัก จาก : http://www.facebook.com/natacha.sirichodrittiyakorn

ฉันเฝ้ารอ

ใจเฝ้ารอ คนพิเศษ มาเคียงกาย
ยืนเดียวดาย ตากสายลม ชมเดือนดาว
ค่ำคืนนี้ ใจฉัน ชั่งเหน็ดหนาว
รอคอยเจ้า มาอยู่เคียง ร่วมเรียงหมอน
ทุกวันนี้ ใจฉันหนาว ขาดเจ้าเคียง


เดินอยู่เพียง ลำพัง บนทางเหงา
อยากจะหา คนที่ใช้ มาแบ่งเบา
คลายความเหงา ความหนาว ฉันเฝ้ารอ



ขอขอบคุณ กลอนรัก โดยคุณ สำรวย ชูคง

เพราะเธอ

ก่อนเคยคิดไม่รักไม่อยากคบ     ยิ่งได้พบหน้าเธอเมินหน้าหนี


แต่เธอก็อดทนรอเป็นปี              รอคนที่ไม่สนใจใยดีเธอ


จนวันนึงฉันเจอความทุกข์เศร้า  เธอก็เข้ามาปลอบตอบปัญหา


ทั้งอดทนรักแค่ฉันตลอดเวลา     พอไม่ช้าต้องแพ้ใจให้กับเธอ


แล้ววันนี้ก็บอกเธอเลยว่ารัก       ไม่อยากพักหัวใจเลยสักหน


ขอหยุดใจเอาไว้แค่เราสองคน   วันนี้จนชั่วนิรันดร์ไม่เปลี่ยนแปลง

Star Dad

I love you, Dad, and want you to know,
I feel your love wherever I go.
Whenever I've problems, you're there to assist,
The ways you have helped me would make quite a list.


Your wisdom and knowledge have shown me the way,
And I'm thankful for you as I live day by day.
I don't tell you enough how important you are,
In my universe you're a bright shining star.


 

ขอขอบคุณ กลอนภาษาอังกฤษ จาก : http://www.poemsource.com/father-poems.html
โดยคุณ Karl Fuchs

The Perfect Father

I love you because you're my father,
But you're really so much more;
You're a guide and a companion;
You and I have great rapport.


You pay attention to me;
You listen to what I say.
You pass on words of wisdom,
Helping me along the way.


Whenever I'm in trouble,
You always have a plan.
You are the perfect father,
And I'm your biggest fan!


 

ขอขอบคุณ กลอนภาษาอังกฤษ จาก : http://www.poemsource.com/father-poems.html
โดยคุณ Karl and Joanna Fuchs

My Father, My Guiding Light

Dad, you’re like the sun to me,
a sure thing, always there,
beaming light and warmth on my life.
Whatever is good in me today,
I owe to your wisdom, your patience,
your strength, your love.
You taught me by example,
as a role model,
how to be my own person,
how to believe in myself,
instructing me without controlling me.
Even when we disagreed,
you held us together,
so our bond was never broken.
I understand what you did for me,
and I am so grateful that I have you
as my solid foundation, my rock.
I respect you, I admire you, I love you,
my guiding light, my father.


 

ขอขอบคุณ กลอนภาษาอังกฤษ จาก : http://www.poemsource.com/father-poems.html
โดยคุณ Joanna Fuchs

Raising Kids is No Big Deal

Raising kids is no big deal
Unless you care, and show great zeal


To raise a child is not some game
To put away, Boy! What a shame
When children reach adulthood burnt
Could there be lessons never learnt?


Those little things you often do
Will have much impact, copy you


Lean to God, while on the road
Cause raising right, takes one big load


Just try your best, no guarantees
And if you slip, jump back on please


 

ขอขอบคุณ กลอนภาษาอังกฤษ จาก : http://www.apples4theteacher.com/holidays/fathers-day/poems-rhymes/raising-kids-is-no-big-deal.html
โดยคุณ Roger J. Robicheau

A Parental Ode to My Son

Thou happy, happy elf!
(But stop, - first let me kiss away that tear!)
Thou tiny image of myself!
(My love, he's poking peas into his ear!)
Thou merry, laughing sprite,
With spirits feather-light,
Untouched by sorrow, and unsoiled by sin, -
(My dear, the child is swallowing a pin!)


Thou little tricksy Puck!
With antic toys so funnily bestuck,
Light as the singing bird that wings the air, -
(The door! the door! he'll tumble down the stair!)
Thou darling of thy sire!
(Why, Jane, he'll set his pinafore afire!)
Thou imp of mirth and joy!
In Love's dear chain so strong and bright a link,
Thou idol of thy parents, - (Drat the boy!
There goes my ink!)


Thou cherub, - but of earth;
Fit playfellow for Fays, by moonlight pale,
In harmless sport and mirth,
(That dog will bite him, if he pulls its tail!)
Thou human humming-bee, extracting honey
From every blossom in the world that blows,
Singing in youth's Elysium ever sunny. -
(Another tumble! That's his precious nose!)


Thy father's pride and hope!
(He'll break the mirror with that skipping-rope!)
With pure heart newly stamped from nature's mint,
(Where did he learn that squint?)
Thou young domestic dove!
(He'll have that jug off with another shove!)
Dear nursling of the hymeneal nest!
(Are these torn clothes his best?)
Little epitome of man!
(He'll climb upon the table, that's his plan!)
Touched with the beauteous tints of dawning life, -
(He's got a knife!)


Thou enviable being!
No storms, no clouds, in thy blue sky foreseeing,
Play on, play on,
My elfin John!
Toss the light ball, bestride the stick, -
(I knew so many cakes would make him sick!)
With fancies, buoyant as the thistle-down,
Prompting the face grotesque, and antic brisk,
With many a lamb-like frisk!
(He's got the scissors, snipping at your gown!)


Thou pretty opening rose!
(Go to your mother, child, and wipe your nose!)
Balmy and breathing music like the South, -
(He really brings my heart into my mouth!)
Fresh as the morn, and brilliant as its star, -
(I wish that window had an iron bar!)
Bold as the hawk, yet gentle as the dove; -
(I'll tell you what, my love,
I cannot write unless he's sent above.)


ขอขอบคุณ กลอนภาษาอังกฤษ จาก : http://www.apples4theteacher.com/holidays/fathers-day/poems-rhymes/a-parental-ode-to-my-son.html
โดยคุณ Thomas Hood

I Can’t Stop loving you.

The bird is in the sky


butterfly is in the garden


you & I are only friend


but the end I Can’t Stop loving you.

กลอนสุนทรภู่ บางตอนจาก เพลงยาวถวายโอวาท

อย่างหม่อมฉันอันที่ดีและชั่ว
ถึงลับตัวแต่ก็ชื่อเขาลือฉาว
เป็นอาลักษณ์นักเลงทำเพลงยาว
เขมรลาวลือเลื่องถึงเมืองนคร

กลอนสดุดีสุนทรภู่

ขอกุศล ดลครู สู่สวรรค์
ซึ้งรำพัน หวานจินต์ จนชินหู
ทั่วประเทศ เขตสยาม นามคุณครู
ชนเชิดชู บูชิต จิตศรัทธา


นิราศรื่น ชื่นชม สมสมัย
ทั้งเทศไทย เลื่องลือ สื่อภาษา
สุนทรภู่ ครูตำนาน กานท์นานา
กราบบูชา ปูชนีย์ กวีกลอน


 

ขอขอบคุณ กลอนสุนทรภู่ จาก : http://www.dreampoem.com/forum/index.php?topic=13544.0
โดยคุณ ย่อง

กลอนสดุดีสุนทรภู่ รอยสุนทรภู่

ขอตามรอย ยุคลบาท งานศาสตร์ศิลป์
ร้อยพันจินตนาการ สราญค่า
เอกลักษณ์ กลอนกานท์ กล่าวขานมา
สุนทรภู่ ครูวิชา ภาษาไทย


ขอน้อมนบ สักการ์ อาจารย์ภู่ฯ
ให้ความรู้ หมู่ชน คนเลื่อมใส
นิราศรัก โศกเศร้า เร้าฤทัย
กราบกวี สี่สมัย ใจศรัทธา


 

ขอขอบคุณ กลอนสุนทรภู่ จาก : http://www.dreampoem.com/forum/index.php?topic=13544.0
โดยคุณ โรแมนติค

ระลึกสุนทรภู่

ขอขอบคุณสุนทรภู่ ผู้เก่งเลิศ


ผู้ก่อเกิดกลอนรัก มากนักหนา


กลอนนิราศประทับใจ ให้ตรึงตรา


ทุกคำลาอาลัย ยังระบือ


อันเสียงปี่พระอภัย ใครได้ฟัง


ไม่อาจนั่งอยู่ได้ มิใช่หรือ


ดั่งผลงานของท่าน ยังระบือ


ไม่ลืมชื่อสุนทรภู่ คู่เมืองไทย.


 

ขอขอบคุณ กลอนสุนทรภู่ โดยคุณ ประสานมิตร

เมื่อยามว่าง

เมื่อยามว่าง   ผมก็นั่ง  แต่งกลอนเล่น


เพราะมันเป็น   สิ่งทำใจ  ให้สุขี


ผลงานแต่ง  คนกล่าวขาน   นานหลายปี


ผมทองดี   แต่งกลอนเล่น   เป็นประจำ


ทั้งกลอนสั้น   กลอนยาว    พราวตลก


บ้างหยิบยก    ใช้ภาษา       ที่น่าขำ


ไม่เคยแต่ง    ทางไม่ดี       ที่ระยำ


กลัวจะทำ      ให้เสียชื่อ     มือแต่งกลอน


 

ขอขอบคุณ กลอนสุนทรภู่ โดยคุณ ทองดี มังคุณ

กลอนสุนทรภู่

อย่างหม่อมฉันอันที่ดีและชั่ว
ถึงลับตัวแต่ก็ชื่อเขาลือฉาว
เป็นอาลักษณ์นักเลงทำเพลงยาว
เขมรลาวลือเลื่องถึงเมืองนคร

กลอนสุนทรภู่ บางตอนจาก "เพลงยาวถวายโอวาท"





จงทราบความตามจริงทุกสิ่งสิ้น
อย่านึกนินทาแกล้งแหนงไฉน
นักเลงกลอนนอนเปล่าก็เศร้าใจ
จึงร่ำไรเรื่องร้างเล่นบ้างเอยฯ

กลอนสุนทรภู่ บางตอนจาก "นิราศภูเขาทอง"





ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์
มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร
จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจาฯ

กลอนสุนทรภู่ บางตอนจาก "นิราศภูเขาทอง"





ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง
มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา
ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย
ทำบุญบวชกรวดน้ำขอสำเร็จ
สรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย
ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย
ไม่ใกล้กรายแกล้งเมินก็เกินไป
ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก
สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป
แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืนฯ

กลอนสุนทรภู่ บางตอนจาก "นิราศภูเขาทอง"





แม่รักลูก ลูกก็รู้ อยู่ว่ารัก
ใครอื่นสัก หมื่นแสน ไม่แม้นเหมือน
จะกินนอน วอนว่า เมตตาเตือน
จะจากเรือน ร้างแม่ ก็แต่กาย

กลอนสุนทรภู่ บางตอนจาก "ขุนช้างขุนแผน"

กดไล้ค์ตัวเอง

ชอบพวกชอบกดไล้ค์........ตัวเอง
โพสสเตตัสเพลง........ภาพเน้น
ชอบมากมากละเลง........ว่าชอบ ตัวฤา
แถมขีดข้อคอมเม้น........มากโม้เมามัน
ขยันชมตัวตลอดหน้า........ไทม์ไลน์
ใครจะกล้ากรีดกราย..........ตอบโต้
เราเห็นก็นึกอาย.........แทนท่าน
่ที่คิดว่าโคตรโก้............กดไล้ค์ตัวเอง


เชษฐภัทร วิสัยจร

http://www.thaipoem.com/poem/147365

หลงรักมนุษย์เม็นส์

หากโหมด-โหดมากแม้น..........ปีศาจ
สาวคลั่ง-สั่งข้าวถาด............ใหญ่แท้
ยังเหวี่ยง-เยี่ยงหวังตวาด.............แฟนตลอด
ด่าใหญ่-ได้อย่าแก้...................โกรธเจ้ามนุษย์เม็นส์


เช่นนี้-ชี้เน้นบอก...............ชายไทย
พบรัก-พักรบใจ...............ระงับกู้
อย่าเถียง-เยียงท้าใคร............หาเหตุ ผลนอ
ยอมก่อน-ย้อนกล่อมสู้.........เสน่ห์สร้างภายหลัง
พลังรัก-ผลักรั้งเหตุ...............ให้เห็น
ยอมนิ่ง-ยิ่งน้อมเย็น............ย่อมชี้
อย่าเหวี่ยง-เยี่ยงว่าเป็น..............เม็นส์แข่ง เธอนอ
หนักรับ-นับรักนี้...............นอบน้อมถวายเธอ


เชษฐภัทร วิสัยจร

http://www.thaipoem.com/poem/147447

ครูเหนื่อยหนัก….มิจักรู้…ว่าครูเหนื่อย


ครูเหนื่อยหนัก….มิจักรู้…ว่าครูเหนื่อย
ศิษย์จิตเฉื่อย…ยังไหลเรื่อย….แสนเฉื่อยชา
ครูเพียงสู้…บ่มความรู้…สู่ปัญญา
ศิษย์คิดบ้า…ในเวลา…นินทาครู


นึกย้อนไกล…ในวัยเยาว์…เขลายิ่งนัก
ครูเหนื่อยหนัก…ด้วยศิษย์รัก….มักพักอู้
นึกย้อนดู….จึงได้รู้…น้ำใจครู
ครูนักสู้….รู้ไหมว่า…ศิษย์ศรัทธา


แม้วันนี้….ทุกนาที…ที่มีอยู่
มีความรู้…ก็เพราะครู….ใจรู้ค่า
แม้วันนี้…มิได้มี…ครูมาดุด่า
ใจก็คอยจะโหยหา….เพราะรู้ว่า..มาจากใจ


สิบหก..มกรา…วันศรัทธา…เวลาควร
ศิษย์เอื้อนเอ่ย..เผยสำนวน…ชักชวนใจ
ขออาราธณา….เหล่าเทวา..เทพทวยไท
ขอสิ่งดี…ที่ยิ่งใหญ่…ให้แด่ครู


(เปลวเทียนเปลี่ยนสี)



เหมือนเรือพายตามสายกระแสเชี่ยว


เหมือนเรือพายตามสายกระแสเชี่ยว
ทั้งลำน้ำคดเคี้ยวเทียวส่งถึง
ให้ศิษย์รักประจักษ์หนักคำนึง
พระคุณครูผู้ซึ่งเป็นหนึ่งใด


คอยเทียวรับเทียวส่งตอนลงน้ำ
เพื่อให้เจ้าได้ข้ามกระแสใหญ่
เมื่อถึงฝั่งครั้งนั้นไม่ทันไร
เจ้าก็ลาจากไปมิทักทวง


เพียงเพราะความรักศิษย์ชีวิตนี้
จะขอยอมพ่ายพลีแม้นแหนหวง
จะขอมอบเลือดหลั่งหมดทั้งปวง
อยู่ในห้วงห่วงหาหน้าที่ครู


แค่เห็นเจ้าเข้าใจในเท่านี้
วิชาอ่านการดีอย่างเลิศหรู
แล้วก็หวังใจไว้ไคร่เฝ้าดู
ใหลูกศิษย์ของครูเป็นคนดี


(ดวงไฟ)



ปัญญาจากครู


ครูบ่ม ศิษย์แบก คิดแยกแยะ
ครูแนะ ศิษย์น้อม พร้อมศึกษา
ครูขับ ศิษย์เคี่ยว เกี่ยวปัญญา
ครูว่า ศิษย์เว้น เกณฑ์มิควร


ครูสอน ศิษย์สาน หว่านคุณค่า
ครูกล้า ศิษย์แกร่ง มิแพร่งสวน
ครูกรอบ ศิษย์กำ ทุกสำนวน
ครูทวน ศิษย์ทบ บรรจบจินต์


ครูสร้าง ศิษย์เสริม เติมส่วนพร่อง
ครูคล้อง ศิษย์คลึง พึงถวิล
ครูผลัก ศิษย์ผก ดั่งนกบิน
ครูยิล ศิษย์ยล ร่วมผลงาน


ครูเหนื่อย ศิษย์นาถ จนปราศสิ้น
ครูสิ้น ศิษย์สืบ ทุกคืบขาน
ครูพัก ศิษย์พร้อม น้อมประทาน
ครูผ่าน ศิษย์ผลิ วิภาวี


ครูนำ ศิษย์น้อม พร้อมมาลา
ครูข้า ศิษย์ขอ ต่อเบื้องศรี
ครูแก้ว ศิษย์กราน ล้านอารี
ครูจี้ ศิษย์จำ ตราบร่ำไป


(บอม ซอง ดุ๊ก)



คือเปลวเทียนสาดแสงทั่วแหล่งหล้า


คือเปลวเทียนสาดแสงทั่วแหล่งหล้า
ประสาทสิทธิ์วิทยาวิชาสรร
ส่องสว่างทางชีวิตศิษย์อนันต์
ด้วยมาดมั่นหมายมุ่งผดุงไทย


คือแม่พิมพ์ตัวอย่างที่สร้างสม
จะอบรมบ่มจิตฝึกนิสสัย
เพียบพร้อมพูนคุณธรรมประจำใจ
ศิษย์เติบใหญ่เป็นคนดีศรีสังคม


คือเรือจ้างลำใหญ่ให้ศิษย์นั่ง
ส่งถึงฝั่งยังเสร็จสำเร็จสม
ประคองฝ่าพาฝืนสู้คลื่นลม
มิให้ล่มจมหายกับสายธาร


ที่สิบหกมกราเวียนมาจบ
สิบนิ้วนบน้อมจิตพิษฐาน
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลดลบันดาล
ให้คุณครูทุกท่านสราญไป


ทั้งอายุวรรณะสุขะผ่อง
ปฏิภาณพละผองส่องสดใส
เกียรติยศเลื่องชื่อระบือไกล
จากดวงใจศิษย์วันทาบูชาคุณ


(Red Poet)



กราบคุณครูเที่ยงแท้ คุณธรรม


กราบคุณครูเที่ยงแท้ คุณธรรม
รักส่งถึงจดจำ แจ่มจ้า
บทเรียนช่วยแนะนำ ครูแน่
กระต่ายทองมองหน้า หนึ่งนี้นมนาน


คุณครู ผู้ยิ่งใหญ่
อยู่เหนือใครไปทุกย่าน
โจษจันทร์ ขั้นเชี่ยวชาญ
คืออาจารย์ งานชื่นชม


เป็นหนึ่ง ซึ่งสั่งสอน
ความแน่นอนค่อนเหมาะสม
ชาย – หญิงกิ่งก้านคม
ล้วนนิยมผมรักครู


เรือจ้างช่างสูงส่ง
มิเจาะจงคงใจสู้
เด่นดังยังเชิดชู
เหลียวมองดูผู้หญิง – ชาย


บุญคุณอุ่นใจล้น
ย่อมเข้มข้นจนร้อนร่าย
รักซื่อถือคมคาย
ไม่ขวา – ซ้ายหมายคู่ควร


ถึงวันครูหนึ่งนี้ ตำนาน
รักอย่างมากทนทาน ถี่ถ้วน
ความยอดเยี่ยมตระการ เกินกล่าว
ขอส่งสุขหลากล้วน รื่นแล้วจงรวย


(กาพย์ห่อโคลง โดย monday1)



เคยยินคำ คุณครู ผู้สอนศิษย์


เคยยินคำ คุณครู ผู้สอนศิษย์
หากพินิจ พิศเห็น เช่นเรือจ้าง
ยามส่งศิษย์ ส่งไป จนสุดทาง
ถูกทิ้งขว้าง ข้างหลัง ไม่ไยดี


มาวันนี้ ศิษย์ขอ พนมกราบ
ศิระราบ ขมา ตามวิถี
แม้ครูมอง ว่าเพียง ประเพณี
แต่ครั้งหนึ่ง วันนี้ คือทั้งใจ
(Alpha)



ยกสองมือขึ้นประนมกราบวันทา


ยกสองมือขึ้นประนมกราบวันทา
ขอขมาคุณครูผู้พร่ำสอน
ผู้ถ่ายทอดวิชาให้คนจร
ผู้สั่งสอนลูกศิษย์ให้คิดเป็น


จากคนที่ไม่เคยมีความรู้
ถูกคุณครูผู้ใจดีคอยเคี่ยวเข็ญ
คอยแนะนำตักเตือนอย่างใจเย็น
ซ้ำยังเป็นดั่งเพื่อนเมื่อทุกข์ใจ


ไม่ทอดทิ้งลูกศิษย์ยามท้อแท้
ท่านช่วยแก้ปัญหาให้สดใส
ความมืดมิดมืดหม่นผ่านพ้นไป
ด้วยน้ำใจไหลหลั่งดั่งสายธาร


ความเมตตาที่คุณครูท่านมอบให้
ทำให้ใครพร้อมใจกันเรียกขาน
แม่พิมพ์ของชาติทุกคนเป็นพยาน
ทุกวันวานกราบกรานบูชาครู
(ชายไร้รัก)



กลอนอกหักใครทำเราเจ็บ

ใครทำ . . “เราเจ็บ”
เราจะ “เก็บ . . ไว้เป็นรายละเอียด”
ใครทำ . . “เราเกลียด”
เราก็จะ “ไม่เฉียด . . เข้าไปใกล้”
ใครทำ . . “เราแค้น”
เราจะ “ตอบแทน . . ด้วยการให้อภัย”
ใครทำ . . “เราร้องไห้”
เราจะ “ทำให้คนนั้น . . เสียดายที่ทิ้งเรา”

เรื่องของความรัก กับความเหงา

“เหงาเล็กน้อย …..คือคนที่ไม่เคยมีใคร”
“เหงามากหน่อย….คือคนที่เคยมีแฟน”
“เหงามากกว่า….คือคนเพิ่งเลิกกะแฟน”
“เหงามากที่สุด….คือคนที่มีแฟนแต่ดูเหมือนไม่มี”

ส่งคำกลอน กล่าวบอก ว่าสุขสันต์


ส่งคำกลอน กล่าวบอก ว่าสุขสันต์
ทุกคืนวัน ให้สมสุข สนุกสนาน
ในปีนี้ ให้หมดทุกข์ สุขชื่นบาน
ให้พบพาน แต่สิ่งดี ตามปีเอย


ในตอนนี้ ก็แก่ขึ้น อีกปีแล้ว
คงไม่แคล้ว หน้าเหี่ยวขึ้น นะเพื่อนเอ๋ย
แต่อย่าเพิ่ง ปวดใจ อะไรเลย
ให้ปีนี้ ได้เชยสุข ยิ่งขึ้นไป
(ท้องฟ้าสีชมพู)



ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนๆ

ม่ว่าวันนี้หรือวันไหน-ไหน
รับรู้ไว้นะ เธอจะมีฉันเป็นเพื่อนเสมอ
วันเกิดปีนี้..อาจไม่มีของขวัญใด-ใดมอบให้เธอ
มีแต่สองมือที่ไม่เลิศเลอนั่งพิมพ์กลอน
… ….
ความรู้สึกจากใจถูกส่งผ่านปลายนิ้ว
พิมพ์แบบพลิ้วพลิ้วจนเกิดเป็นตัวอักษร
“สุ ข สั น ต์ วั น ค ล้ า ย เ กิ ด น ะ ค ะ(ครับ)..คุ ณ………….”พร้อมด้วยคำอวยพร
ขอให้ช่วงชีวิตทุกตอน พบเจอแต่สิ่งดี
… …
คนธรรมดาคนหนึ่ง บันดาลความสมหวังให้คุณไม่ได้
แต่กำลังใจ พร้อมมีให้เสมอนะ..เพื่อนคนนี้
ขอให้ก้าวไปข้างหน้า บุญรักษาทุกนาที
พบคู่ชีวิตดี-ดี..ที่พร้อมเติมเต็มกันและกัน.
(Kotchanan)

หนึ่งปีแล้วเลยเวียนมาบรรจบ


หนึ่งปีแล้วเลยเวียนมาบรรจบ
กลายเป็นวันครบรอบวันเกิดนี้
ขอให้คุณพบเจอแต่สิ่งที่ดี
ไม่มีแม้โรคภัยมาเบียดเบียด


สิ่งที่เศร้าเหงาใจในปีผ่าน
เรื่องวันวานหนักใจชวนปวดเศียร
ให้ทิ้งไปเก็บได้แค่บทเรียน
ขอให้ชีวิตคุณมีแสงเทียนนำทาง
(แก่นฝัน)



วันคล้ายวันเกิดวันนี้


วันคล้ายวันเกิดวันนี้
ขอให้……….มีแต่ความสมหวัง
อายุยืนยาว…ในกระเป๋ามีตังค์
การงานทุกอย่าง…สมหวังดั่งใจ


สิ่งประเสริฐใดใดในหล้า
ขอจงเมตตา…ไม่ว่าที่ไหน
ขอให้คุ้มครอง…ปกป้องเรื่อยไป
ขอให้แคล้วคลาดปลอดภัย…มีความสุขใน..ทุกทุกวัน
(ฌลา)



คำรักที่หวานซึ้ง

คำรักที่หวานซึ้ง
ใครคนหนึ่งเคยเอื้อยเอ๋ย
วันนี้ไม่เหมือนเคย
เธอละเลยหรืออย่างไร
แค่ถามเพราะรู้สึก
ในส่วนลึกสัมผัสได้
ว่ารักที่เปลี่ยนไป
เธอมอบให้ไม่เหมือนเดิม

ประณมมือนบน้อมค้อมเกศา


ประณมมือนบน้อมค้อมเกศา
ขอพรพระเทวาในภพหล้า
ดลให้คุณ “……..” ไร้โรคา
สุขภาพพลานามัยนั้นสมบูรณ์


อีกโภคทรัพย์ลาภยศทวีเพิ่ม
บารมีเสริมส่งมงคลหนุน
ญาติมิตรมีจิตเกื้อการุณย์
คอยค้ำจุนบุญผลจนจำเริญ
(สุวรรณ)



พรพิเศษจากทุกหนแห่งใดในโลกนี้


พรพิเศษจากทุกหนแห่งใดในโลกนี้
จงมารวมอยู่ที่นี่ส่งให้ท่าน
ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายดลบันดาล
ให้สุขสันต์ตลอดกาลนิรันดร์ไป


ทุกข์ถ้ามีถูกขจัดและปัดเป่า
สิ่งโลมเล้าให้จิตคิดหวั่นไหว
ขอให้มันสูญสลายมลายไป
พบแต่ความสุขใจนิรันดร์กาล
(bourana)



กลอนกาแฟความรัก

กาแฟต้องเติมน้ำตาล
แต่ความรักต้องเติมความหวานคือการเอาใจใส่
แต่งรสให้กลมกล่อมเราต้องmixหัวใจ
เป็นกาแฟในเช้าวันใหม่..ที่ลงตัว


แต่ถ้าวันหนึ่งกาแฟหมดรสหวาน
หมดโปรโมชั่นน้ำตาลเจอรสขมจนปวดหัว
เธอจะเปลี่ยนแก้วใหม่หรือปรับปรุงต่อเพื่อให้ลงตัว
อยากให้ชัวร์เราต้องปรับตัว…..
แล้วเติมความหวานไปพร้อมๆกัน


By : อัยย์ดาว พราวตะวัน 24 พ.ย.54  poem.mthai.com

จะทำอะไรพยายามคิดหลายๆทาง

จะทำอะไรพยายามคิดหลายๆทาง
คิดให้รอบคอบ
คิดเผื่อด้านร้ายที่สุดไว้เสมอ
ผมไม่ได้บอกให้มองโลกในแง่ร้าย
แต่คุณก็รู้ว่า โลกไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด
(ชมรมข้อคิดชีวิตมนุษย์)

คำคมโอกาสสร้างความสำเร็จ

หน้าที่ของเรา
ไม่ใช่นั่งรอโอกาสให้วิ่งมาหาเรา
แต่เรามีหน้าที่
พัฒนาความรู้ความสามารถ
ให้รู้มากพอและเก่งมากพอ
ที่จะหยิบโอกาสที่มันอยู่รอบตัว
มาสร้างชีวิต สร้างอนาคต สร้างความสำเร็จ
และความร่ำรวยให้ชีวิต
(ใจดีจิตดีFanpage)

รักแกนะเพื่อน

...ดีใจ ที่มีแก...


...ขอบใจที่...รักกัน...


...ขอบคุณที่เคยสร้างฝันกันมา... 


...ดีใจ ที่มีแกเป็นเพื่อน...


...เพื่อน...ฉันรักแกนะ... 


ขอขอบคุณ กลอนเพื่อน โดยคุณ มาย.อิสระ

ฉันยังเป็นฉันเหมือนวันวาน

ยังเป็นคนที่คอยห่วง
แม้เวลาจะล่วงเลยผ่าน
ฉันยังเป็นฉันเหมือนวันวาน
คนที่มีเธอตลอดกาลในใจ

อย่าถามเลยว่าคิดถึงหรือเปล่า

อย่าถามเลยว่าคิดถึงหรือเปล่า
ลองนับดาวบนฟ้าดีกว่าไหม
เผื่อจะได้คำตอบของหัว ใจ
ที่ซ่อนในดวงดาวหลายร้อยดวง..

ข้อดี…ของการนอนน้อย

ข้อดี…ของการนอนน้อย
คือ มีเวลาคิดถึงเธอมากขึ้น
ข้อเสีย…ของการนอนน้อย
คือ มีเวลาฝันถึงเธอน้อยลง

แค่เห็นเธอออนไลน์ .. . ก็ “รู้สึกดี”~*

ไม่เรียกร้องให้ใส่ใจกัน
แค่อยากให้ความสัมพันธ์ . .. เป็นเหมือนเก่า
ไม่ต้องมีอ้อมแขนเธอ  ~ เพื่อคลายเหงา
แค่รู้ว่ายังมีเรา . .. ก็อุ่นใจ


ไม่ต้องตามกดไลค์ให้ทุกข้อความที่โพสต์
ไม่น้อยใจ ~ ไม่โกรธ . .. หรอกรู้ไหม?
สำหรับเธอ . . ฉันเป็นส่วนหนึ่งของสังคมออนไลน์
แต่สำหรับฉัน . .. เธอคือคนที่ใจแอบรออย่างมีความหมาย
แค่เห็นเธอออนไลน์ .. . ก็ “รู้สึกดี”~*


By : แป้งน้ำ 8 มี.ค. 56 บ้านกลอนไทย 





ก็แค่คนปากหนัก

ก็แค่กุหลาบเหลือ ~ เหลือ หนึ่งดอก
ไม่ได้ตั้งใจซื้อให้เธอหรอก . .. ขอบอกไว้ ณ ที่นี้
บังเอิญว่าหน้าเธอลอยมาในความคิดถึงพอดี
อีกทั้งกุหลาบก็เริ่มบานเต็มที่ . .. จะทิ้งก็เสียดาย


by : แป้งน้ำ

Hello world!

Welcome to WordPress. This is your first post. Edit or delete it, then start blogging!